คณะ สพป.เพชรบูรณ์ เขต 1 ร่วมให้กำลังใจนักเรียนและผู้ปกครอง ที่นำนักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) จำนวน 25 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 1,166 คน
            เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2564 ดร.ไท พานนนท์ ผอ.สพป.เพชรบูรณ์ เขต 1 นำคณะ สพป.เพชรบูรณ์ เขต 1 ประกอบด้วยนางอารีย์ คำมาตร ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา , นางอรุณศรี ศรีเมือง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ, นางบัวผัน มีทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการ, นางกานต์พิชชาภัทณ์ คนสมบูรณ์ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ และนางเสาวนีย์ บุตรศิริ นักจิตวิทยาโรงเรียนฯ ร่วมเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนและผู้ปกครอง โรงเรียนในสังกัด อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งมีนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เข้ารับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 1 จำนวน 25 โรงเรียน รวมจำนวน 1,166 คน ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์
           อนึ่ง ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ชี้แจงว่าโรงเรียนในแต่ละจังหวัดที่ไม่มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 เปิดการเรียนการสอน On Site อยู่แล้ว ยกเว้น โรงเรียนในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ซึ่งการกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งจะต้องมีขั้นตอน ดังนี้
            1.โรงเรียนที่จะเปิดต้องประเมินความพร้อม เช่น ในเรื่องสถานที่ ว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ครูและนักเรียนได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขครบหรือไม่ กำหนดว่าโรงเรียนที่จะเปิดได้ เด็กนักเรียนร้อยละ 85 ต้องฉีดวัคซีนครบ ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษาในภาพรวมฉีดวัคซีนแล้วเป็นส่วนมากเหลืออีกร้อยละ 30 จะครบถ้วน
  ดร.อัมพร ยืนยันว่า การที่เด็กจะฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไร เช่น วัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม ก็สามารถมาเรียนได้ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ปกครองและต้องสมัครใจ เพราะผู้ปกครองประเมินแล้วว่ามีความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้ห้าม เนื่องจากวัตถุประสงค์ต้องการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมเด็กมากที่สุด เพราะต้องการให้เปิดเรียนและให้เด็กกลับไปเรียนให้เร็วที่สุด หากเด็กคนไหนไม่ฉีดก็สามารถมาเรียนได้ ส่วนการจัดการเรียนการสอน การทำกิจกรรมต่างๆต้องปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
            2.หากโรงเรียนประเมินความพร้อมผ่านเกณฑ์ เสนอเรื่องไปที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด จะพิจารณาเป็นรายโรงเรียน
            3.เมื่อผ่านเกณฑ์การพิจารณาและเปิดเรียนแล้ว มาตรการต่างๆต้องปฎิบัติตามเกณฑ์และแนวทางการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข
              ประเด็นที่ระบุว่า เด็กที่ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ไม่ได้มีการบันทึกข้อมูลลงในแอปพลิเคชัน หมอพร้อม จะมีปัญหาในการไปเรียนและเมื่อไปเรียนแล้วไม่มีบันทึกใน School Pass จะมีปัญหาหรือไม่ ดร. อัมพร กล่าวว่า ขอให้ผู้ปกครองอย่ากังวล เนื่องจาก มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของแต่ละโรงเรียน ครูประจำชั้น ครูที่ปรึกษา จะต้องสอบถามนักเรียนในแต่ละห้อง แต่ละชั้นอยู่แล้วว่าแต่ละคนได้ฉีดวัคซีนหรือยัง และฉีดยี่ห้ออะไร และในช่วงปลายเดือนนี้ ผู้ปกครองก็ต้องส่งแบบสอบถามอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เด็กๆฉีดวัคซีน ซึ่งจะทำให้แต่ละโรงเรียนรู้จำนวนที่ชัดเจนและแน่นอนของเด็กๆอยู่แล้ว
การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ขอให้ปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ตามแนวทางที่วางไว้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตรวจทุกวัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ความเสี่ยง และ เหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เช่น 7 วันอาจจะตรวจ1 ครั้ง เป็นต้น ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายชุดตรวจ ATK ยอมรับว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครจะรับผิดชอบ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ห่วงและเร่งรัดให้ได้ข้อยุติ
            ดร.อัมพร ย้ำว่า จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเปิดเรียน 1 พ.ย.64 หากโรงเรียนไหนยังไม่พร้อมขอให้ปฎิบัติตามขั้นตอนให้พร้อมก่อน จะเป็นลักษณะการทยอยเปิด เนื่องจาก ทุกโรงเรียนไม่ได้ฉีดวัคซีนพร้อมกัน ขึ้นอยู่กับแผนการฉีดและจำนวนวัคซีนที่จะทยอยเข้ามาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา ขอให้แต่ละโรงเรียนปฎิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด
ติดตามประมวลภาพส่วนหนึ่งได้ที่เว็บไซต์เฟสบุ๊ค เว็บลิงค์ https://www.facebook.com/groups/www.phetchabun1.go.th/permalink/4516868001692860/
 

 

 

ฮิต: 370

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 1
126 หมู่ 11 ถ.สระบุรี-หล่มสัก ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ 67000 
หมายเลขโทรศัพท์. 056-737080, 056-737081 , 056-737083 , 056-737085 , 056-737086
หมายเลขโทรสาร 056-737075  
E-Mail : admin@phetchabun1.go.th
แผนที่ตั้งหน่วยงาน